ผลิตภัณฑ์ของ PGP Gold Star

ผลิตภัณฑ์ของ PGP Gold Star
PGP GOLD STAR ซื้อเองทางแอป SHOPEE ตอนนี้ถูกมากๆ ครับ ขายราคาสมาชิกก็ยังสู้ราคาในแอปไม่ได้เลยครับ ดังนั้น ซื้อในแอปเถอะครับ 5555

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ผสมสารสกัดจากมะเขือเทศ(ไลโคปีน) Rice Bran and Germ Oil Extract Lycopene


เลขที่ อย. 10-1-00653-1-0023 ผลิตโดยบริษัท 8 เศรษฐี จำกัด 99/8 หมู่ 16 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540

ไลโคปีน (Lycopene) คือ แคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งในกว่า 600 ชนิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของสีแดงของมะเขือเทศ และแตงโม ที่มีโครงสร้างโมเลกุล ที่ยาวกว่าแคโรทีนอยด์ชนิดอื่น ๆ ทำให้ ไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยลด ความผิดปกติ และความเสื่อมของเซลล์อันเนื่องมาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ

เป็นสารแคโรทีนอยด์ มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอีถึง 100 เท่า ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวพรรณสดใส ขาวอมชมพู

ไลโคปีนที่พบมี โครงสร้างทางเคมี 2 แบบคือ trans – configuration และแบบ cis-isomer โดยในธรรมชาติจะพบไลโคปีนแบบ trans – configuration แต่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบ cis-isomer ได้เมื่อสัมผัสกับความร้อนหรือและสว่าง โดยในกระแสเลือดของคนเราพบไลโคปีนแบบ cis-isomer อยู่ถึง 60% เลยทีเดียว

ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคปีนเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริม โดยไลโคปีนจะไปกระจายอยู่ทั่วไปในเนื่อเยื่อบริเวณที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่พบการสะสมของไลโคปีนมากที่ต่อมหมวกไต ลูกอัณฑะ และตับ จากการศึกษาวิจัยพบว่าไลโคปีนที่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อน (heat processed-lycopene) เช่น การปรุงอาหาร ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าไลโคปีนในธรรมชาติ เนื่องจากไลโคปีนที่มีโครงสร้างแบบ cis -isomer ถูกดูดซึมได้ดีกว่าแบบ trans – configuration และแบบ cis -isomer จะสามารถละลายและรวมตัวกับกรดน้ำดี (bile acid micells) ได้ดีกว่า แบบ trans – configuration ด้วย นอกจากนั้น การใช้ความร้อนในการประกอบอาหารยังทำให้ไลโคปีนที่อยู่ในผนังเซลล์ของผักและ ผลไม้ละลายออกได้มากขึ้น ทำให้ดูดซึมในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่ารับประทานแบบสดถึง 2.5 เท่า ดังนั้นหากจะรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับไลโคปีน จึงควรนำผักและผลไม้ไปปรุงให้สุกก่อน

มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า ปริมาณไลโคปีนในร่างกายจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น และพบว่าปริมาณสารไลโคปีน ในร่างกาย มีความสัมพันธ์แบบผกผันกับอัตราการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ผู้ป่วยที่มีปริมาณสารไลโคปีนในร่างกายต่ำ จะมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขี้นเนื่องจากไลโคปีนเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) ที่มีความแรงมาก และมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง กลไกการออกฤทธิ์ที่สำคัญคือเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระ (Free radical) ในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการทำลายสายดีเอ็นเอ อันก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ไลโคปีนจะช่วยลดการก่อกลายพันธุ์ ทำให้สามารถยับยั้งวงจรชีวิตของเซลล์มะเร็งในช่วงต้น (ระยะ G1) และลดการเกิดเนื้องอกได้ เมื่อเทียบกับสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดอื่นๆ ไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากมีโครงสร้างที่ต่อกันเป็นสายยาวกว่า ดังรายงานการศึกษาเปรียบเทียบผลในการต้านอนุมูลอิสระในหลอดทดลอง พบว่าไลโคปีนมีฤทธิ์ที่ดีกว่าเบต้าแคโรทีนและแอลฟาโทโคฟีรอลถึง 2 และ 10 เท่าตามลำดับ มีความเชื่อว่าไลโคปีนสามารถปรับระบบฮอร์โมนและภูมิคุ้มกัน ตลอดจนเมตาบอลิซึมในร่างกายได้ นอกจากนี้การรับประทานไลโคปีนในปริมาณสูงยังช่วยยับยั้งเอนไซม์สำคัญที่ใช้ สังเคราะห์โคเลสเตอรอล และเร่งสลายโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือ LDL (Low density lipoprotein) ที่มีส่วนทำให้เกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดแข็งตัวได้อีกด้วย

ใน 1 แคปซูลมีน้ำมันรำข้าวผสมไลโคปีน 500 มิลลิกรัม ประกอบด้วย
น้ำมันรำข้าว 436.50 mg.
จมูกข้าว 50.00 mg.
สารสกัดจากมะเขือเทศ 12.50 mg. (มีสารไลโคปีน 1.25 mg.)
วิตามินอี 1.00 mg.

วิธีรับประทาน
วันละ 1-2 แคปซูลหลังอาหารเช้า

ราคาปลีก 900 บาท
ราคาสมาชิก 550 บาท คะแนน 110 PV
บรรจุ 30 แคปซูล

1 ความคิดเห็น:

  1. ไลโคปีน ใช้ในกรณีที่อยากผิวขาว และอมชมพู ผู้ชายสามาถป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้

    ตอบลบ