ผลิตภัณฑ์ของ PGP Gold Star

ผลิตภัณฑ์ของ PGP Gold Star
PGP GOLD STAR ซื้อเองทางแอป SHOPEE ตอนนี้ถูกมากๆ ครับ ขายราคาสมาชิกก็ยังสู้ราคาในแอปไม่ได้เลยครับ ดังนั้น ซื้อในแอปเถอะครับ 5555

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563

PGP Gold Star | สั่งซื้อสินค้าในแอป SHOPEE เลยครับ ถูกจริงๆ ในลิงก์ที่ผมให้ไว้ คลิกซื้อได้เลย มีแบบเก็บเงินปลายทางด้วย

ตอนนี้ขายราคาสมาชิกก็ไม่ไหวแล้วครับ เพราะขายไม่ได้ มีคนซื้อเอ่ไปเยอะๆได้ราคาถูกเลยขายในแอปช้อปปี้ราคาถูกมากๆครับ ไปซื้อในนั้นได้เลย ผมทำลิงก์ไว้ให้แล้วครับ เพราะขี้เกียจมาตอบคำถามว่าทำไมในแอปถูกกว่า คือผมเลิกขายแล้วครับ ไปซื้อในแอปเอาเองเถอะ 55555 



ประกาศ

สืบเนื่องจากในปัจจุบันนี้ มีสมาชิกหลายท่านไปทำการตลาดขายสินค้า PGP Gold Star ในแอปพลิเคชั่น Shopee กับ Lazada เป็นจำนวนมาก และทำราคาถูกเสียจนสมาชิกที่สั่งซื้อโดยตรงจากบริษัทขายสินค้าไม่ได้

มีหลายท่านถามมาว่าทำไมราคาในแอปถึงถูกกว่าราคาสมาชิกที่เราเคยขาย คำตอบคือไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่เข้าใจว่าสมาชิกเหล่านั้นซื้อสินค้าจากบริษัทในปริมาณมากเช่น เวลาเปิดคลังก็จะมีโปรโมชั่นสินค้าแถมมา ทำให้สมาชิกเหล่านั้นสามารถนำสินค้าที่แถมมาขายในราคาต่ำกว่าราคาสมาชิกได้

ดังนั้นเพื่อความสบายใจของทุกท่าน ถ้าหากอยากซื้อสินค้า PGP Gold Star ไปลองกินใช้จำนวนน้อยชิ้น สามารถซื้อได้ในแอปครับ เดี๋ยวจะทำลิงก์ไว้ด้านล่างนี้นะครับ คลิกแล้วหาชื่อสินค้าของ PGP ได้เลยครับ

แต่ถ้าอยากซื้อสินค้าที่มีโปรแถมแบบปกติจากบริษัทโดยตรง ราคาสมาชิก ก็สามารถซื้อสินค้าได้ที่นี่เช่นเดิมครับ  PGP Gold Star Koh Samui 






Gold - N โกลด์-เอ็น


Gold-N : เลขที่ อย. 10-1-00653-1-0064 ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอเบสท์จำกัด 304 ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพ 10310 

โกลด์เอ็น : อาหารที่ช่วยสร้างพลังแห่งชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์ อุดมไปด้วยพลังงาน และโปรตีนที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค ป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เช่นภูมิแพ้ หัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง โรคภูมิแพ้ตัวเอง (โรค SLE) และอื่นๆ



ถั่วแดง ช่วยการไหลเวียนของเลือด ลดการอักเสบ บวม ขับปัสสาวะ
ข้าวหอมมะลิ มีเกลือแร่ และวิตามินต่างๆมากกว่า 20 ชนิด เสริมสร้างร่างกายให้สมบูรณ์
ถั่วเหลือง ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดอัตราเสี่ยงของโรคหัวใจ 
ลูกเดือย ช่วยบำรุงม้าม ปอด แก้ท้องเสีย กระเพาะอาหารและลำไส้ แก้โรคปวดข้อ ยับยั้งการเติบโตของเนื้องอก
งา อุดมไปด้วยโปรตีน ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เม็ดเลือด เส้นผม ขน และฮอรโมนต่างๆ 

การผลิตเอนไซม์นี้จะผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิส (Hydrolysis) ทำให้เซลล์ นำสารอาหารไปใช้ได้ทันที โดยไม่ผ่านกระบวนการย่อย ให้พลังงาน ฟื้นฟูร่างกายได้ทันที จึงรู้สึกได้ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว 



เอนไซม์ สารอาหารจำพวกโปรตีนที่ให้พลังงานสูงเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวะเคมีในร่างกาย เช่น การย่อยอาหาร, การขับถ่าย, การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ, การขจัดสารพิษ, ระบบภูมิคุ้มกัน, ระบบเลือด เป็นต้น
    
ความสำคัญของ เอนไซม์
  1. ช่วยย่อยสลายอาหารให้เล็กลงพอที่จะผ่านผนังของลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดและซ่อมแซม ควบคุม, กระตุ้น การทำงานของระบบอื่นๆ ในร่างกาย
  2. ทำหน้าที่รักษาระบบเผาพลาญในร่างกายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การย่อยอาหารการสลายไขมัน การลำเลียงอาหารเข้าสู่เชลล์ เป็นต้น


ร่างกายได้รับเอนไซม์ 2 ทาง
  1. การรับประทานอาหารสด ที่ไม่ได้ผ่านการปรุงให้สุกด้วยความร้อน
  2. การรับประทานเอนไซม์สกัดจากพืชในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร


หากร่างกาย ได้รับเอนไซม์ ไม่เพียงพอจะมีผลกระทบต่อการสร้างภูมิต้านทานและระบบอื่นๆ ในร่างกายทั้งหมดสุขภาพจะอ่อนแอลงและเจ็บป่วยได้ง่าย



  
ทำไม? คนส่วนใหญ่จึงอยู่ในภาวะขาด เอนไซม์
  • รับประทานอาหารสดน้อย การได้รับเอนไซม์ก็น้อยตามไปด้วย
  • เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ร่างกายจะสร้างเอนไซม์ได้น้อยลงเรื่อยๆ
  • ความเครียด การเจ็บป่วย ทำให้การผลิตเอนไซม์ในร่างกายลดลง
  • การปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อน ทำให้สูญเสียเอนไซม์ที่มีประโยชน์ไป

 หากขาดเอนไซม์ สุขภาพของคุณจะเป็นอย่างไร?
  • การย่อยอาหารไม่มีประโยชน์ ร่างกายได้รับสารอาหารน้อยลง
  • ลำไส้ทำหน้าที่ดูดซึมสารอาหารผ่านเข้าสู่กระแสเลือดไปเลี้ยงเชลล์ได้น้อยลง
  • ขบวนการเผาพลาญและสร้างพลังงานให้กับเซลล์ลดลงจะรู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย
  • ระบบอวัยวะในร่างกายทั้งหมดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
  • วิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงฮอร์โมนต่างๆไม่สามารถทำงานตามหน้าที่ได้ ถ้าขาดเอนไซม์
  • การย่อยที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้มีเศษอาหารเก่าตกค้างหมักหมมในลำไส้ เป็นเหตุให้เกิดพิษในร่างกาย เกิดการเจ็บป่วยและเกิดโรคร้ายต่างๆ
  • ขบวนการสร้างภูมิต้านทานร่างกายลดลงภูมิต้านทานน้อย
  • มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก, ท้องอืด, ท้องเฟ้อ, กรดแก๊สในกระเพราะอาหาร, ริดสีดวง, ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น เป็นต้น


วิธีรับประทาน นำผงเอนไซม์ 1-2 ช้อน (แถมช้อนมาแล้วในกระป๋อง) ผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว แล้วชงให้เข้ากัน แล้วดื่มภายใน 10-30 นาที เช้า และก่อนนอน 





ราคาปลีก 1500 บาท
ราคาสมาชิก 750 บาท คะแนน 250 PV
บรรจุ 250 กรัม ต่อกระป๋อง 

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Astaxanthin Plus Q10 แอสตาแซนทิน พลัส คิวเท็น

Astaxanthin Plus Q10 แอสตาแซนทิน พลัส คิวเท็น



ต่อต้านอนุมูลอิสระที่ส่งผลโดยตรงต่อความงดงามของผิว ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบของโรคไขข้ออักเสบ วิธีทาน. 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า •ขนาดปริมาณ 30 แคปซูล •ราคาขาย 1,300 บาท •ราคาสมาชิก 900 บาท

Nature R เนเจอร์ อาร์


Nature Red เลขทะเบียน อย 10-1-00653-1-10060  ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอเบสท์จำกัด 304 ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพ 10310

ซื้อในแอป Shopee


Nature Red เป็นใยอาหารล้างสารพิษทางเลือกของการคืนสมดุลให้ร่างกาย เลือก Detox ล้างสารพิษด้วยใยอาหาร 100%  ช่วยล้างสารพิษ ทำให้ผิวพรรณสดใส ลำไส้สะอาด สุขภาพดีด้วยวิธีธรรมชาติ เห็นผลภายใน 8-12 ชั่วโมง สะดวก ปลอดภัย ประหยัดเงิน เห็นผลเร็ว ไม่ต้องสวนทวาร แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

ประกอบด้วยสารอาหารที่สำคัญแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ

ใยสาร ประกอบไปด้วย ใยอาหารจากแอปเปิ้ล ไซเลี่ยมซีดฮัสค์ (Phyllium Seed Husk) ข้าวโอ๊ต กัวร์กัม ผักและ ผลไม้เบอรี่ มีใยอาหารสูง ช่วยระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายดีขึ้น มีวิตามินซี กรดซิตริค ช่วยให้ ผิวพรรณสดใส

อัลฟาฟ่า อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาติรวม 98 ชนิด ล้างสารพิษในระบบเลือด ระบบทางเดินอาหาร และยับยั้งแบคทีเรีย

เอนไซม์จากมะละกอ มีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนในกระเพาะอาหารทำให้ไม่เกิดแก๊ส จึงช่วยลดอาการจุกเสียดได้

น้ำตาลเด็กซ์โตรส, ฟรุคโตส เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ทำให้ดูดซึมได้เร็ว ให้ความหวานแทนน้ำตาล


ส่วนประกอบที่สำคัญ : 

ฟรุกโตส  (Fructose) 3.96 กรัม (22.00%)
แอปเปิ้ลไฟเบอร์ (Apple Fiber) 3.18 กรัม (17.66%)
โอ๊ตไฟเบอร์ (Oat Fiber) 2.10 กรัม (11.663%)
ผงปวยเล้ง (Spinach Powder) 1.44 กรัม (08.00%)
ผงสตรอเบอร์รี่  (Strawberry Powder) 1.20 กรัม (06.67%)
ผงราสเบอร์รี่ (Raspberry Powder) 1.20 กรัม  (06.67%)
ผงบลูเบอร์รี่ (Blueberry Powder) 1.20 กรัม  (06.67%)
ผงอัลฟาฟ่า (Alfafa Powder) 1.20 กรัม  (06.67%)
ผงมะละกอ (Papaya Powder) 0.90 กรัม (05.00%)
ไซเลี่ยม ฮัซค์ (Psyllium Husk) 0.72 กรัม (04:00%)
กัวกัม (Guar Gum) 0.54 กรัม (03.00%)
กรดซีตริค (Citric Acid) 0.36 กรัม (02.00%)


ใยอาหารช่วยขจัดสารพิษ ประโยชน์ของใยอาหารคือ 
ช่วยลดสิ่งสกปรกในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่
ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด
ช่วยปรับสมดุลปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือด
ช่วยลดปัญหาท้องผูก
ช่วยให้ระบบย่อยอาหารเป็นปกติ
ช่วยลดปริมาณสารพิษในร่างกาย
มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
แก้ปัญหาริสีดวงทวารหนัก
เป็นการลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ

ระบบขับถ่ายของคุณ ดีแล้วหรือยัง ? 
เพราะการขับถ่ายทุกวันไม่ได้หมายความว่า ขับออกมาได้หมด
ลำไส้เล็กดูดซึมสารอาหาร
ลำไส้ใหญ่ขับถ่ายของเสีย
นี่คือเรื่องจริง !!!! 90% ของความเจ็บป่วยมีต้นเหตุมาจากลำไส้ จากการสำรวจลำไส้ของคน 22,000 คน เกือบทั้งหมด มีลำไส้ไม่ปกติ โดย ดร.จอห์น ฮาร์รีย์ แคลโลนจน์

เมื่อใดคุณควรล้างสารพิษในร่างกาย ?

หาคุณมีอาการ / พฤติกรม ดังต่อไปนี้เกิน 5 ข้อ คุณควรล้างสารพิษในลำไส้

ปวดเมื่อยตามข้อต่อ
นนหลับยาก
ชอบกินเนื้อสัตว์
กินผักผลไม้น้อย
ชอบกินของมอดของมัน
ติดชา กาแฟ
ติดน้ำอัดลม
ชอบกินขนมหวาน
ชอบกิน นม เนย
กลิ่นตัวแรง
มีอาการมึนศีรษะ
ผิวแห้ง หยาบกร้าน หมองคล้ำ
อ้วนหรือผอมเกินไป
เซื่องซึม
เป็นสิวมาก
จุกเสียดแน่นเฟ้อบ่อยๆ
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
ท้องผูกเป็นประจำ
ท้องเสียง่าย
เครียดบ่อย อารมณ์เสียง่าย
ผายลมบ่อย
เป็นไข้และเป็นหวัดบ่อย

โรคท้องผูก เป็นต้นเหตุของอาการดังต่อไปนี้ 
ปวดหัวบ่อย หงุดหงิดเป็นประจำ สมองมึนงง คิดอะไรไม่ออก นอนหลับยาก
ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดต้นคอ คอแข็ง หันไม่สะดวก หูอื้อ
อ่อนเพลียง่าย ป่วยบ่อย รู้สึกหนาวๆร้อนๆ เหมือนจะเป็นไข้ มื่อเท้าเย็น
ท้องอืดเป็นประจำ ท้องเสียง่าย ปวดท้องบ่อย แน่นท้อง
ผิวพรรณไม่สดใส หมองคล้ำ ผิวหยาบกร้าน เป็นสิว เป็นฝ้า
มักเกิดแผลร้อนในในปาก มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว ผายลมบ่อย
ไส้ติ่งอีกเสบ โรคอ้วนพุงโต หรือผอมเกินไป ท้องผูก ริสีดวงทวารหนัก
เป็นโรคเรื้องรัง ปัสสาวะไม่ใส ไตมีปัญหา ความดันโลหิตสูง ภูมิแพ้ ลมพิษ ผื่นคัน หอบหืด ข้อเสื่อม ฯลฯ

ต้นเหตุของอุจจาระมีกลิ่นเหม็นมาก
สารพิษกลิ่นเหม็นเหล่านี้เกิดจากอาการท้องผูกเรื้อรังและการสะสมตะกรันในลำไส้ใหญ่
ก๊าซอีสตามน์ ก่อสารพิษ เกิดโรคภูมิแพ้ อินดอล ฟินนอล ไนโตรซาไมน์ ก่อสารพิษเกิดโรคมะเร็ง
ก็าซแอมโมเนีย และก๊าซ
ซัลเฟอร์ออกไซต์ ก่อสารพิษทำลายตับ


ทำอย่างไร ไม่ให้ท้องผูก ?
เริ่มต้นด้วยการรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง ปริมาณเส้นใยที่เพียงพอคือ 25 กรัมต่อวัน พืชผัก 5 กิโลกรัม + แอปเปิ้ลเขียว 36 ผล (0.7 กรัม / ผล) + แอปเปิ้ลแดง 86 ผล (0.3 กรัม / ผล) = Natre Red 1 ซอง 

วิธีดื่ม Nature Red เพื่อการล้างพิษและลดน้ำหนัก
ใส่น้ำเย็นในแก้วเชคประมาณ 200 ซีซี ใส่เนเจอร์เรดลงไป ปิดฝา เขย่า 8-10 ครั้ง ดื่มทันที และตามด้วยน้ำเปล่าอีก 1 แก้ว

การติดตามผลในช่วง 3 วันแรก 
เช็คสุขภาพลำไส้ ดื่มเนเจอร์เรด 3 วัน ผลการขับถ่าย หลังจากดื่ม 8-12 ชั่วโมง
ขับถ่าย 2-4 ครั้ง ลำไส้ปกติ แนะนำให้รับประทานต่อเนื่องอย่างต่ำ 30 วัน
ขับถ่าย 1 ครั้ง ลำไส้ล้า แนะนำให้รับประทานต่อเนื่องอย่างต่ำ 30 วัน
ไม่ถ่าย คือ ลำไส้ป่วย แนะนำให้รับประทานต่อเนื่อง 45 วัน
ขับถ่าย  5 ครั้งขึ้นไป คือ ลำไส้บวม แนะนำให้รับประทานต่อเนื่องอย่างต่ำ 45 วัน

วิธีดื่มเพื่อล้างสารพิษ แก้ท้องผูก ดื่มวันละซองก่อนนอนต่อเนื่อง 30 วัน

วิธีดื่ม Nature Red เพื่อลดน้ำหนัก ดื่มวันละซอง ก่อนอาหารเย็น 15 นาที หรือดื่มแทนอาหารเย็นต่อเนื่อง 30 วัน

ดื่มต่อเนื่อง 30 วัน หลังจากดื่มครบจำนวนวันแล้ว ให้ลดปริมาณลง เหลือ 2-3 ซอง ต่อสัปดาห์


ราคาปลีก 1250 บาท
ราคาสมาชิก 750 บาท คะแนน 150 PV
บรรจุ  270 กรัม 15 ซอง ใน 1 กล่อง (ซองละ 18 กรัม)

VC-1 วิซี - วัน


VC-1 เป็นโปรตีนสกัดเช่นเดียวกับเอนไซม์ แต่ทำให้เข้มข้นกว่า เพื่อบรรจุแคปซูลสำหรับท่านที่ไม่ชอบแบบผงชงน้ำ และสำหรับคนที่เดินทางบ่อย ไม่สะดวกในการชงดื่ม

Q: วีซี-วัน (VC-1) คืออะไร A : วีซี-วัน (VC-1 หรือ Very Concentrate-1) คือ สูตรอาหารเข้มข้นชนิดแคปซูล ที่ผ่านกระบวนการการคัดสรรมาโดยเฉพาะ และผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิส (Hydrolysis) เพื่อย่อยสลายสารอาหารชนิดต่างๆ ให้มาอยู่ในรูปที่ร่างกายจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที ดังนั้น วีซี-วัน (VC-1) จึงมีคุณสมบัติเป็น Functional Food หรือ อาหารชีวบำบัด ที่จะทำหน้าที่หลักๆ 4 ประการ คือ
1.ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานโดยฉับพลันของเซลล์หน้าด่าน คือ เซลล์ของระบบย่อยอาหารและการดูดซึม
2.ช่วยส่งเสริมขบวนการรักษาความสมดุลในร่างกาย
3.ขจัดสารพิษและซ่อมแซมสมานคืนส่วนที่สึกหรอในร่างกาย
4.ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง และฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว

วิธีรับประทาน 
ครั้งละ 3 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น

ราคาปลีก 700 บาท
ราคาสมาชิก 540 บาท คะแนน 100 PV
บรรจุ 90 แคปซูล ต่อขวด

Gold - Beta G โกลด์ เบต้า - จี


Gold - Beta G เลขที่ อย. 10-1-00653-1-0061 ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอเบสท์จำกัด 304 ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพ 10310

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ (β-Glucan) หรือมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ได้แก่ Aureobasidium คือสารประกอบประเภทน้ำตาลหลายโมเลกุล ชนิดหนึ่ง (Polysaccharide) ซึ่งได้รับจากการเพาะเลี้ยงยีสต์ดำด้วยอาหารที่มีส่วนผสมของซูโครส, รำข้าว, วิตามินซี ฯลฯ ผสมกับน้ำที่อุดมด้วย แร่ธาตุโดยยีสต์ดำจะสร้างใยอาหาร เบต้ากลูแคนขึ้นมาพันรอบๆตัวเอง คำว่ากลูแคนเป็นชื่อเรียกการเรียงตัวของ น้ำตาลกลูโคส โดยมีโครงสร้างการเรียงตัว คือเลข 1,3 เป็นการเรียงตัวของโซ่หลัก ส่วนเลข1,6 คือการเรียงตัวของโซ่ข้าง 



ประสิทธิภาพของเบต้ากลูแคนที่สำคัญ คือ เพิ่มพลังต้านทานโรคในร่างกาย, ฟื้นฟูภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ, ลดระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆได้อย่างมี ประสิทธิภาพ  โครงสร้าง “β 1,3-1,6 Glucan” เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ กำลังเป็นที่นิยมและสนใจในหมู่ผู้รักสุขภาพ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ 


ประโยชน์ เบต้ากลูแคนทำหน้าที่เพิ่มพลังให้กับเซลล์ทุกส่วนในร่างกาย โดยเฉพาะสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น และต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ เช่นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา (Macrophage) และการกำจัดเซลล์ร้ายต่างๆเช่นเซลล์มะเร็งได้ดีอีกด้วย


เบต้ากลูแคนจากยีสต์ Beta Glucan from Brewers yeast 334 mg. (82.67%)
แคลเซียมแอสคอร์เบต Calciaum Ascorbate 60 mg. (14.85%)


วิธีรับประทาน วันละ 1 แคปซูล ก่อนนอน
ราคาปลีก 1800 บาท
ราคาสมาชิก 900 บาท คะแนน 250 PV
บรรจุ 30แคปซูล


Gold Pro โกลด์โปร


Gold - Pro เลขที่ อย. 10-1-00653-1-0043 ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอเบสท์จำกัด 304 ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพ 10310


โกลด์-โปร อุดมไปด้วยโปนตีนจากพืช สำหรับผู้ที่ต้องการความฟิต เฟิร์ม สมาธิ และความจำ

ถั่วแดง ช่วยการไหลเวียนของเลือด ลดการอักเสบ บวม ขับปัสสาวะ
ถั่วเขียว มีฤทธิ์เย็น แก้กระหาย ขับพิษ บำรุงร่างกาย แก้ร้อนใน 
ถั่วดำ มีโปรตีน และไฟเบอร์สูง มีสารฟลาโวนอยด์ช่วยล้างสารพิษ
ถั่วขาว ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน สารฟาซิโอลามีนยับยั้งแป้งไม่ให้เป็นน้ำตาล หากได้รับสารสกัดจาก ถั่วขาวเข้าไปในปริมาณ 500 มิลลิกรัมต่อวันจะ ร่างกายได้รับพลังงานจากแป้งลดน้อยลงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งมีผลทำให้การสะสมของไขมันในร่างกายที่เกิดจากน้ำตาลในแป้งลดน้อยลง เมื่อร่างกายได้รับพลังงานไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ดังนั้นร่างกายก็จะเผาผลาญไขมันเก่าที่สะสมออกมาใช้มากยิ่งขึ้นร่วมไปถึงยังลดระดับไตรกรีเซอไรด์ในร่างกายด้วยจึงทำให้น้ำหนักลดลงโดยไม่ต้องใช้วิธีอดอาหารหรือกินยาลดความอ้วน


โปรตีนสกัดผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิส (Hydrolysis) ให้กรดอะมิโนครบครัน ช่วยฟื้นฟูการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย สร้างภูมิต้านทาน เซลล์กล้ามเนื้อ และกรดอะมิโนยังช่วยเสริมสร้างโกรทฮอร์โมน ระบบประสาทและความจำ


วิธีรับประทาน วันละ 2-3 แคปซูลก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น
ราคาปลีก 800 บาท
ราคาสมาชิก 450 บาท คะแนน 100 PV
บรรจุ 45 แคปซูล

Gold C โกลด์ ซี



โดยส่วนมาก เมื่อเราพูดถึงวิตามินซีเรารู้กันอยู่แล้วว่าการได้รับวิตามินซีเพียงพอจะส่งผลดีต่อสุขภาพเราในหลายๆด้าน และเมื่อเราพูดถึงแหล่งวิตามินซีจากธรรมชาติ เรามักจะนึกถึงส้ม แต่รู้หรือไม่ว่า ในส้ม  1ถ้วย (100 กรัม) นั้นมีปริมาณของวิตามินซี 95.8 มิลลิกรัม แต่จากผลการวิจัยของ USAD เราไดพบว่ามีผลไม้เมืองร้อนชนิดหนึ่งที่มีปริมาณวิตามินซีที่สูงมากเมื่อเทียบในอัตราส่วนเดียวกันนั่นได้แก่ Acerola Cherry (อะเซโรล่า เชอร์รี่) ซึ่งในอะเซโรล่า เชอร์รี่ใน 1 ถ้วย (100 กรัม) จะให้ปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1,644 มิลลิกรัม และจากผลการวิจัยของ Purdue University พบว่าเมื่อเทียบประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระ ระหว่างอะเซโรล่า เชอร์รี่ และผลไม้ประเภทต่างๆก็พบว่าอะเซโรล่าเชอร์รี่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมด ซึ่งเป็นผลมาจากการวิกจัยจาก The School of Medicine at the University of Puerto Rico ในปี 1945 โดยทีมวิจัยได้ศึกษาจากชนเผ่าพื้นเมืองที่รับประทานอะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นประจำนั้นไม่มีผลกระทบจากไข้หวัดเลย เมื่อพบข้อมูลดังกล่าวนี้แล้วอะเซโรล่าเชอร์รี่จึงถูกแพร่ขยายปลูกออกไปอย่างแพร่หลายและใช้ในการป้องกันและรักษาโรคมาจนถึงทุกวันนี้ 

อะเซโรล่าเชอร์นรี่นั้นเป็นแหล่งสารอาหารต้านอนุมูลอิสระที่สูงที่สุดในอันดับต้นๆ ของผลไม่ทั้งหมด เพราะนอกจากปริมาณวิตามินซี ที่สูงแล้ว ยังมีสารพฤกษเคมีในกลุ่ม แอนโธไซยานิน (Anthocyanins) แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) และอุดมไปด้วยแร่ธาตุวิตามินอื่นๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี โพแทสเซียม แมกนีเซียม โฟเลท เหล็ก ทองแดง สังกะสี ซีลีเนียม และฟอสฟอรัสอีกด้วย 



ประโยชน์ของอะเซโรล่าเชอร์รี่ (Acerola Cherry) กับความงามเพื่อผิวขาวใส 

ประโยชน์ของอะเซโรล่าเชอร์รี่ (Acerola Cherry) คอลลาเจน Collagen ctp Collagen อะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ สูงประมาณ 6 เมตร ลำต้นมีเส้นผ่้านศูนย์กลางประมาณ 10 เซนติเมตร ผลของอะเซโรล่าเ๙อร์รี่อาจเป็นผลเดี่ยวหรือเป็นช่อประมาณ 2-3 ลูก มีลักษณะแป้นถึงกลมคล้ายเชอร์รี่ แต่มี 3 หยัก ขนาดกว้างประมาณ 1.25 - 2.5 เซนติเมตร กลิ่นคล้ายแอปเปิ้ล ผิวบางมัน สีแดง เนื้อชุ่มน้ำสีส้ม รสเปรี้ยว หรือมเปรี้ยวจนเกือบหวาน ใน 1 ผลจะมี 3 เมล็ด เนื่องจากผลของอะเซโรล่าเชอร์รี่มีผิวที่ค่อนข้างบางจึงทำให้กช้ำง่าย และเสื่อมสภาพร็ว หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วจะเกิดกระบวนการหมักอย่างรวดเร็ว (ประมาณ 3-5 วัน) และถ้าไม่เก็บไว้ในอุณหภูมิที่ต่ำ (7องศาเซลเซียส) จะทำให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย โดยถ้าต้องการเก็บเอาไว้นานๆแต้องเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า -12 องศาเซลเซียส  จึงนิยมนำมาประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมความงามและอาหารเสริมต่างๆ เพื่อผิวขาว หน้าใส เช่นผงขัดผิว สบู่หรือเจลล้างหน้า คอลลาเจน หรือเป็นส่วนผสมในครีม และ เครื่องสำอางต่างๆ เป็นต้น อะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระคือวิตามินซี มีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพภาะเหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียมและมีสารสำคัญอีกตัวหนึ่งชื่อ Trans - beta - carotene ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย มีปริมาณของไ/ขมันอิ่มตัวและโซเดียมต่ำ ไม่มีคลอเรสเตอรอล และจากผลการวิจัยพบว่ามีวิจามินซีสูงกว่าส้มถึง 30-80 เท่่า 


Source : Souci Fachmann Kraut, Food Composition and Nutrition Tables , 6th ed, 2000

ประโยชน์ของวิตามินซี :

1.เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยซ่อมแซมเซลล์ทีถูกทำลาย ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้เสื่อตัวเร็ว ชข่วยให้ผิวหน้าขาว ใส สุขภาพดี

2.ช่วยลดการติดเชื้อหวัด ช่วยต้านการติดเชื้อแบคทีเรีย จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับวิตาซีเป็นประจำจะเป็นหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่ได้รับ

3.ช่วยลดการแพ้ต่างๆ รวมทั้งโรคภูมิแพ้ โดยยับยั้งสารฮีสตามิน ซึ่งร่างกายสร้างขึ้นมา หากมากเกินไปจะทำให้มีอาการระคายเคืองตามระบบหายใจ ทำให้จามและมีน้ำมูกไหล

4.ช่วยในการสัง้เคราะคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนจำเป็นสำหรับเนื้อเยื่อที่ผิวหนัง

5.ช่วยป้องกันและรักษาสีเมลานินที่ผิดปกติ ลดรอยหมองคล้ำ ฝ้า กระ รอยด่างดำตามร่างกาย ช่วยให้ผิวขาวขึ้น ผิวพรรณสว่างสดใส ขาวใสได้ต่อเนื่องยาวนาน

6.มีงานวิจัยบางชิ้นยังบอกถึงฤทธิ์ของวิตามินซีในด้านอื่นๆเช่น ช่วยการเจริญเติบโตในเด็กเล็ก ช่วยลดจำนวนเซลล์มะเร็งไม่ให้แพร่กระจายออกไป ช่วยลด LDL เป็นต้น และเนื่องจากอะเซโรล่าเชอร์รี่มีวิตามินซีสูงมาก จึงมีการปลูกเป็นอุตสาหกรรม เพื่อนำมาผลิตวิตามินซีในรูปต่างๆ เช่น ผง เม็ด แคปซูล น้ำผลไม้ เป็นต้น แต่เนื่องจากวิตามินซีจะสลายตัวเมื่อมีความร้อน จึงต้องสกัดน้ำอะเซโรล่าเชอร์รี่ที่อุณหภูมิต่ำประมาณ -195 องศาเซลเซียส และผลอะเซโรล่าเชอร์รี่ 18 กิโลกรัมจะสกัดเป็นน้ำได้ 1 กิโลกรัม จากนั้นนำมาทำให้แห้ง เพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป


ราคาขายปลีก 350 บาท
ราคาสมาชิก 250 บาท
คะแนนสำหรับสมาชิก  25 PV
ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล


Oryzanol 48 P & Q10 น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวผสมโคเอ็นไซม์ คิวเท็น แกมม่า 48





มีคุณสมบัติช่วยป้องกัน การบำบัดและรักษาโรคร้ายแรงบางชนิด ทั้งยังสามารถฟื้นฟูระบบต่างๆ ให้ร่างกายได้อีกด้วย  ประกอบด้วยสารอาหารต่อไปนี้

น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil 442 mg.) เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมเซลล์ ลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง เสริมสร้างความจำ ลดความเครียด 
แกมมา ออริซานอล 48 (Gamma Oryzanol 48 mg.)ช่วยลดระดับไขมันในหลอดเลือด 
โค คิวเท็น (Co Q10 5mg) เพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ และช่วยต้านอนุมูลอิสระ 
วิตามินอี (Natural Vitamin E Oil 5 mg.) ช่วยการทำงานของระบบประสาท ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ยืดหยุ่นลดริ้วรอย 


Gamma Oryzanol แกมมา-ออริซานอล ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวป้องกันโรคได้จริงหรือ?
จากงานวิจัยและทดลองของผู้เชี่ยวชาญทั้งแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับสารอาหารและคุณค่าคุณประโยชน์ของ "น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว" พบว่ามีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์มากมายทั้งทางด้านป้องกัน บำบัด และรักษา ช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดดุลป้องกีันโรคต่างๆที่จะเกิดกับร่างกายได้

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสกัดมาจากข้าวหอมมะลิสายพันธุ์ Oryza Glaberrim คัดเอาส่วนที่เป็นจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวนำมาสกัดทำให้ได้สารที่ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์สามารถต้านโรคได้ ทางการแพทย์ใช้ควบคู่กับการรักษาคนไข้โรคร้ายๆบางชนิดเนื่องจากการรักษาบางอย่างทำให้ร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอไม่สารถทนต่อการรักษาได้ จึงจำเป็นต้องให้อาหารเสริมเพื่อไปช่วยบำรุงร่างกายผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน ซึ่งนอกจากการรักษาจะได้ผลดีแล้ว ยังสามารถช่วยฟื้นฟูระบบต่างๆในร่างกายได้อีกด้วย 


น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว มีสารอาหารที่สำคัญคือ
  • สารแกมมา-ออริซานอล (Gamma Oryzanol) ที่มีคุณสมบัติช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ทำให้อวัยวะสำคัญเช่น ตับ ไต หัวใจ สมอง ตับอ่อน และอื่นๆ มีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้นทำให้สภาพร่างกายที่กำลังเสื่อมสภาพแข็งแรงขึ้นสามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติ ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ ตับ ไต เบาหวาน อีกทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidation) และป้องกันแสง UVได้ 
  • สารฟอสโฟไลปิด (Phospholipids) ประกอบด้วย เลคติน, เซฟฟาริน, ไลโซเลซิติน ซึ่งมีสวนสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ประสาทสมอง, ป้องกันเซลล์ประสาทจากสารที่เป็นพิษ และอนุมูลอิสระต่างๆ ช่วยลดความเครียด และเสริมสร้างความจำ 
  • สารเซราไมด์ (Ceramide) เป็นส่วนประกอบสำคัญของชั้นใต้ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น การเสริมเซราไมด์ให้เพียงพอทั้งการรับประทานหรือการให้ทางผิวหนังในรูปแบบการทาครีมหรือโลชั่น จะช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง ปราศจากริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร นอกจากนี้แล้ว เซราไมด์ ยังมีคุณสมบัติเป็นไวท์เท็นเนอร์ (Whitener) สามารถยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน (Melanin) อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ บนใบหน้าหรือผิวพรรณได้อีก ทั้งยังเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณนุ่มนวลแลดูอ่อนกว่าวัย 
  • วิตามินบี - คอมเพล็กซ์ (B-Complex) และเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยทำให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น ช่วยลดภาวะท้องผูกเนื่องจากทำให้อุจจาระอ่อนตัวเคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่ได้ง่ายขึ้น ช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงทวารหนัก และมะเร้งลำไส้ใหญ่ 
  • สารเมลาโทนิน (Melatonin) ช่วยทำให้นอนหลับสบาย ช่วยลดความเครียด
  • สารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols), แร่ธาตุต่างๆ โปรตีน และ สารโทคอล (Tocols) วิตามินอีธรรมชาติ ในรูปของโทโคเฟอรอล (Tocopherol) และโทโคไทรอีนอล (Tocotrienol) ที่ช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆได้โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้จะบำบัดได้ผลดี 
สาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว เป็นส่วนที่ได้จากการนำเอาเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวและจมูกข้าวมาผ่านกระบวนการสกัดเพื่อให้ได้มาซึ่งน้ำมันรำข้าวดิบและนอกจากนี้น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวยังมีกระบวนการกรองเอากากรำข้าวออกเหลือแต่ส่วนที่เป็นสารอาหารต่างๆ ที่ละลายอยู่ในน้ำมันรำข้าว ก่อนจะนำมาบรรจุเป็นแคปซูล


กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid) 
โดยทั่วไปแนะนำให้บริโภคไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% จึงเหมาะสมต่อการบริโภคเพื่อดูแลสุขภาพ
กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid) กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีบทบาทต่อการลดระดับไขมัน โดยลด แอลดีแอลคอลสเตอรอล ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C : Low Density Lipoprotein-Cholesterol) ช่วยเพิ่ม เอชดีแอล ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ดี HDL-C : High Density Lipoprotein-Cholesterol) จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

วิธีการสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวทำได้ 2 วิธีใหญ่ๆคือ

  1. สกัดโดยตัวทำละลายเฮกเซน (Hexane) สามารถสกัดน้ำมันดิบได้ประมาณ 20% น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวที่ใช้สารเฮกเซนในการสกัดนั้น หากรับประทานเข้าไปมากๆอาจจะทำให้มีสารเฮกเซนสะสมอยู่ในร่างกายอันเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็งได้
  2. สกัดเย็นหรือ Cold Press คือการนำรำข้าวและจมูกข้าวมาผ่านเครื่องสกัดเย็นและมีการปรับคุณภาพเอาตะกอนของรำข้าวทิ้ง จะได้น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวที่ใสบริสุทธิ์และคงคุณค่าของข้าวได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีความปลอดภัยกว่าวิธีแบบเฮกเซน แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าแบบเฮกเซน (น้ำมันรำข้าวของ PGP Gold Star สกัดด้วยวิธีสกัดเย็น หรือ Cold Press ) 
TIP!!!! จะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำมันรำข้าวแะจมูกข้าวที่เรารับประทานนั้นผ่านกระบวนการสกัดแบบไหน ถ้าเป็นการสกัดแบบเฮกเซนทดสอบได้จากการเคี้ยวน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวเม็ดนั้นให้แตกในปาก ถ้ามีกลิ่นคล้ายน้ำมันก๊าดแสดงว่าสกัดโดยวิธีเฮกเซน 


สารอาหารใน "น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว" 
กับการป้องกันโรค 

โรคเบาหวาน 
ในน้ำมันรำข้าวสกัดมีธาตุโครเมียม (Cr.) ที่ย่อยงายถึง 265 x 10-3 mg. / 100 mg. โครเมี่ยมที่ร่างกายดูดซึมเข้าไปในระบบเลือดจะทำหน้าที่ในการจับฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ฮอร์โมนอรซูลินคงตัวได้นานเกาะตามเซลล์ต่างๆ ของกล้ามเนื้อทำให้ฮอร์โมนอินซูลินมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคนไข้เบาหวานควบคุมได้ง่ายขึ้น
ในน้ำมัน Linoleic acid (ไลโนเลอิค) 33% ที่มีอยู่ในน้ำมันรำข้าวทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสารโปรสตาแกลนดิน Cyclic AMP ซึ่งจะทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายรับกลูโคสได้มากขึ้น ทำให้กลูโคสในเลือดลดลง
Tocopherol, Tocotrienol จะไปช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลที่อุดตันในเส้นเลือด กลุ่มเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงไต, ช่วยทำให้กลุ่มฮอร์โมนกลูโคสเตียรอย, มินเนอโรสเตียรอย, แอนโดรสเตียโรนทำงานได้ปกติ มีผลทำให้ร่างกายลดการสลายกลูโคสจากกล้ามเนื้อ, ไกลโคเจนจากตับ กลูโคสจากเนื้อเยื่อไขมัน ทำให้ความมีพิษในเลือดลดลง เนื่องจากยูเรีย, ยูริก, กรดไขมันในเลือดลดลงม ลดเลือดคั่งตามเท้า
ตับอ่อน จะทำงานได้ตามปกติ สามารถที่จะผลิตฮอร์โมนอินซูลินตามปกติ เนื่องจากฮอร์โมนที่สั่งการต่อมใต้สมองทำงานได้ตามปกติไม่หลั่งฮอร์โมนอินพิเนพพริน และนอริพิเนฟ มากเกินความจำเป็น

โรคทางสายตา (ต้อกระจก, ต้อหิน, บำรุงสายตา)
โปรวิตามินเอ-เบต้าแคโรทีน, วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนที่มีสูงมากในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวดิบ สามารถป้องกันโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินเอได้ โดยเฉพาะโรคน้ำตาแห้ง, โรคต้อ, เซลล์สายตาถูกทำลาย
ในน้ำมัน Linoleic acid (ไลโนเลอิค) จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นโปรสตาแกลนดิน ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อปรัีบม่านตาให้ทำงานได้ดีขึ้น

โรคความจำเสื่อม, โรคไหลตาย 
ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสกัด มีสารฟอสฟอไลปิด, ไกลโคไลปิด ที่มีผลทำให้สมองเซลล์สมองได้รับการซ่อมแซมในส่วนที่จุดเชื่อต่อหลุด และยังช่วยบำรุงเซลล์ประสาทให้แข็งแรง

บำรุงสมองและบำรุงประสาท 
น้ำมัน Linoleic acid (ไลโนเลอิค) ช่วยทำให้กล้ามเนื้อต่างๆ สามารถดูดซับกลูโคส และกรดอะมิโน ได้มากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนสภาพฮอร์โมนโปรสตาแกลนดิน ทำให้เกิด Cyclic AMP มากขึ้น ทำให้อาหารที่เหลืออยู่ในเลือดที่เป็นกลุมโปรตีน, ไทโรซีน, ฟีนิลอะลานีน, ทรีพโพเพน มากขึ้น ซึ่งโปรตีนในกลุ่มดังกล่าวจะไปเป็นอาหารหลักให้กับเซลล์สมองและเซลล์ประสาท โดยจะไปช่วยซ่อมแซม บำรุงสมอง และเซลล์ประสาทส่วนที่ชำรุด ทำให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น
น้ำมันกลุ่มสารฟอสเฟอไลปิด (ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว) ที่ได้จากการย่อยอาหาร จะถูกลำเลียงไปเลี้ยงระบบสมองมีการเชื่อมต่อเซลล์สมอง ประสาทจุดไซแน้ฟที่หลุดหายไป และทำให้เดนไดรท์ มีการเชื่อมต่อได้มากขึ้น ทำให้มีความจำดีขึ้น
กลุ่มแร่ธาตุ K+, Mg+2, Na+ จะทำให้การทำงานของระบบเซลล์ประสาท, สมองสั่งการได้ดีขึ้น
กลุ่มวิตามินบี-คอมเพล็กซ์ (B-Complex) ทำให้การใช้พลังงานจากการสลายตัวของแป้ง และน้ำตาลได้ดีขึ้น
กลุ่มวิตามินอี (E) ช่วยป้องกันไม่ให้สมองถูกอนุมูลอิสระทำลาย

โรคความดันโลหิตสูง 
น้ำมัน Linoleic acid (ไลโนเลอิค) ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นโปสตาแกรนดิน ให้กลายเป็นฮอร์โมนที่ลดการบีบตัวของเส้นเลือด ทำให้ลิ่มเลือดสลายตัว ทำให้การทำงานหนักของหัวใจน้อยลง
วิตามินอีในรูปแอลฟ่าโทโคฟีรอลและโทโคไทรอีนอล ช่วยละลายลิ่มเลือดทำให้ความดันโลหิตลดลง ทำให้การนำเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้มากขึ้น ทำให้ไม่เกิดอาการขาดเลือดบางส่วน ไม่ก่อให้เกิดอาการเลือดขอดคั่ง ช่วยละลายคอเลสเตอรอลในเลือดที่ไปเลี้ยงต่อมใต้สมอง, ต่อมหมวกไต, ทำให้ระบบการทำงานของฮอร์โมนในอวัยวะดังที่กล่าวมาทำงานได้ปกติ ทำให้การหลั่งฮอร์โมนนอร์อิเนพพลินลดลง ทำให้เส้นเลือดคลายตัว การหลั่งเคนินฮอร์โมนมากขึ้นจากต่อมหมวกไตมีผลให้เลือดคลายตัว ลดการสร้างฮอร์โมนเรนนินที่เป็นสาเหตุให้การบีบตัวของเส้นเลือดลดลง
วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ ในน้ำมันรำข้าวสกัด ช่วยทำให้การสลายตัวของแป้งและกลูโคสได้ง่ายขึ้นในกระบวนการไกลโคไลซีส

ข้อมูลอ้างอิง 
  1. Arai T.Horumon To Rinsho 1982 : 30 ( 3) 271-79
  2. Grunewald K. et al Sport med 1993 : 15 (2) : 90103
  3. Shinomiya M. et al Tohoku j Exp Med 1983 : 141 (2) : 243 - 51
  4. Ishihara M. et al Nippon Sanka Fujinka Gakkai Zasshi 1982 : 34 (2) : 243-51 

วิธีรับประทาน วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหารเช้า 
ราคาปลีก 1750 บาท 
ราคาสมาชิก 1280 บาท คะแนน 250 PV
บรรจุ 60 แคปซูล 

Star CAP สตาร์ แคป

Star CAP เลขที่ อย. 10-1-00653-1-0029 ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอเบสท์จำกัด 304 ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพ 10310 


Star CAP เป็นผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพและรูปร่างดูดีสมดั่งใจคุณ ช่วยลดน้ำหนักที่เกิดจากโรคอ้วน ควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่เข้าสู่ร่างกาย ยับยั้งการสะสมของไขมันใหม่ เร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย เปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน แก้ปัญหาระบบขับถ่าย ท้องผูก ช่วยรักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหยาบกร้าน 

เพื่อให้เห็นผลในการลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น ควรรับประทานควบคู่กับ Gold DT, Gold Pro หรือตามสูตรด้านล่าง 



***สามารถปรับลดได้ตามงบประมาณของลูกค้า โดยเรียงลำดับความสำคัญตาม
หมายเลข***

ใน 1 แคปซูลมีส่วนประกอบทีสำคัญประกอบด้วย

ผงถั่วขาว  (White Kidney Bean Powder) 150.00 mg.
สารสกัจากผลส้มแขก (Garcinia Extract) 150.00 mg.
แอลคาร์นิทิน ฟูมาเรท (L-Carnitine Fumarate) 120.00 mg.
ธัญพืชผง (Instant Rice Fine Quick ) 111.00 mg. 
สารสกัดจากเคลป์ (Kelp Extract) 20.00 mg

Chromium Amino Acid Chelate ช่วยอะไร ?
โครเมียม (Chromium ) เป็นแร่ธาตุที่จะเป็นต่อร่างกาย มีผลต่อการเจริญเติบโต และการมีสุขภาพที่ดี มีความจำเป็นต่อขบวนการแตกตัวของโมเลกุงโปรตีน ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งโครเมียมได้รับความนิยมสูงมากในคนอเมริกัน ร่างกายมนุษย์ต้องการโครเมียมในปรืมาณ 50-200 ไมโครกรัมต่อวัน 

โครเมียมช่วยรักษาปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้คงที่ จากการวิจัยพบว่าโคเมียมเป็นส่วนประกอบของสารที่เรียกว่า GTF  (Glucose Tolerance Factor) โดยจะทำงานร่วมกับ ไนอาซิน และกรดอะมิโน อีกหลายชนิดในขบวนการที่ช่วยรักษาปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้คงที่ นอกจากนี้โครเมียมยังมีบทบาทในการเพิ่ม HDL หรือคอเลสเตอรอลชนิดดี และลดระดับ LDL คอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีด้วย โครเมียมกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นพลังงานและขบนการสังเคราะห์กรดไขมัน และ คอเลสเตอรอล จึงดูเหมือนว่าโครเมียม จะเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลินและการจัดการกับน้ำตาลกลูโคส ป้องกันการเกิดน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป

จากการศึกษาพบว่าโครเมียมมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงปริมาณของไขมันในร่างกายโดยพบว่าโครเมียมอาจจะลดปริมาณไขมัน และกระตุ้นการสร้างมวลกล้ามเนื้อ โดยทดลองให้โครเมียม ขนาด 400 ไมโครกรัมต่อวันกับอาสาสมัครเป็นระยะเวลา 3 เดือน พบว่ามีการลดลงของปริมาณไขมันและน้ำหนักของร่างกาย 

โครเมียม ช่วยอะไร?
จากหนังสือ "Clinical Nutrition a Functional Approach" ของ "The Institute for Functional Medicine" ตีพิมพ์ในปี 1999 หน้า 161-163 ได้กล่าวถึงประโยชน์ของโครเมียมที่ได้รวบรวมงานวิจัยต่างๆไว้ว่า "โครเมียมช่วยการทำงานของอินซูลินอย่างมาก โครเมียมเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลิน และการจัดการกับน้ำตาลกลูโคสป้องกันการเกิดน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงเกินไป ดังนั้นจึงมีประโยชน์เป็นอย่างมากต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยให้การเผาพลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มไขมัน HDL และช่วยลดไขมันไตรกรีเซอร์ไรด์และ LDL ช่วยเพิ่มระบบภูมิต้านทาน (เนื่องจากไปลดจำนวน Cortisol และเพิ่ม Immunoglobulin) และช่วยลดความอ้นได้ในบางคน"

การลดน้ำหนักของโครเมียมที่แสดงผลในเรื่องนี้คือมันไปช่วยเร่งการไปเผาผลาญไขมันในร่างกาย และไปเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ มีการศึกษาเมื่อปี 1998 โดยมีอาสามสมัครสุขภาพดีจำนวน 122 คนที่เป็นสมาชิกของเฮลท์คลับต่างๆในรัฐเทกซัส ได้รับโครเมียมจำนวน 400 ไมโครกรัม หรือยาหลอกเป็นระยะเวลาติดต่อกันนาน 3 เดือน คนที่ได้รับโครเมียมมีไขมันนร่างกายลดลง 6 ปอนด์ (หรือ 2.7 กิโลกรัม) ขณะที่คนที่ได้รับยาหลอกลดลงเพียง 3 ปอนด์( 1.3 กิโลกรัม) แหล่งที่พบโครเมียมที่ดีที่สุดคือ ในยีสต์ (Brewer's yeast) นอกจากนั้นยังพบในเมล็ดธัญพืช และซีเรียล ซี่งโดยปกติ โครเมียมมักจะถูกทำลายไปในระหว่างกระบวนการผลิตเสมอ ทำให้อาหารที่เราบริโภคนั้นขาดโครเมียมไป

ใคร เป็นกลุ่มที่เสี่ยงจะขาดโครเมียม 
พบว่าคนในกลุ่มผู้สูงอายุ ผูป่วย นักกีฬา และผู้หญิงมีครรภ์ เป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดโครเมียมมากที่สุด หากร่างกายขาดโครเมียม อะไรจะเกิดขึ้น ? 

เมื่อร่างกายขาดโครเมียมจะมีอาการต่อไปนี้คือ อ้วนง่าย ตัวบวมๆ ฉุๆ อ่อนเพลีย มีน้ำตาลรั่วออกมาในปัสสาวะ เสี่ยงต่อหารเป็นโรคเบาหวาน มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ฯลฯ

คนทั่วไปควรได้รับโครเมียมวันละเท่าไหร่?

ปกติคนทั่วไปควรได้รับโครเมียมปริมาณที่แนะนำโดยแพทย์ทั่วไปคือ 200 ไมโครกรัมต่อวัน (ขนาดที่ อย. อเมริกัน US FDA ได้แนะนำไว้คือ 50 - 200 ไมโครกรัมต่อวัน)

ทำไม ? ต้องเสริมโครเมียม 

ปัจจุบันคนเรากินอาหารหวาน ขนมหวาน ผลไม้หวาน และเครื่องดื่มหวานๆ กันอย่างมากมาย ทำให้ร่างกายของเราใช้โครเมียมอย่างสิ้นเปลืองมากจนทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายขาดโครเมียม เสี่งต่อการเกิดโรคต่างๆ ดังได้กล่าวมาแล้วและการที่คนเรากินอาหารสำเร็จรูปที่ผ่านกระบวนการผลิตมากมายซึ่งส่งผลให้อาหารเหล่านั้นขาดแร่ธาตุโครเมียมซ้ำลงไปอีก ด้วย 2 เหตุผลหลักนี้เองส่งผลให้การกินโครเมียมเสริมเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก สำหรับคนในยุคปัจจุบันอย่างเราๆ ท่านๆครับ 

หากคุณได้รับสารอาหารเพียงพอ คุณไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารเสิมเลยก็ได้แต่ในปัจจุบัน อาหารที่คุณรับประทานส่วนใหญ่มักจะผ่านกรรมวิธีมากมายจนทำให้สารอาหารต่างๆรวมทั้งโครเมียม ถูกขจัดออกไปจากอาหาร

วิธีรับประทาน ครั้งละ 1-2 แคปซูล ก่อนมื้ออาหาร ครึ่งชั่วโมง

ราคาปลีก 1400 บาท
ราคาสมาชิก 950 บาท คะแนน 250 PV
บรรจุ 30 แคปซูล


Gold V โกลด์ วี


Gold V เลขที่ อย. 10-1-00653-1-0063 ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอเบสท์จำกัด 304 ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพ 10310


Gold V : ผลิตภัณฑ์สำหรับคนรักผิว เพื่อการเสริมสร้างผิวให้กระจ่างใสเปล่งประกาย ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ คืนผิวสวย เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น

ส่วนประกอบที่สำคัญ 
ข้าวกล้องผง (235.00 mg.) อุดมด้วยวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินเป็นประจำทุกวันจะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา โรคโลหิตจาง
แอล-กลูต้าไธโอน (150.00 mg.) ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ลดสีผิว ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานีนที่มีมากผิดปกติ ลดรอยหมองคล้ำ ยับยั้งการสร้าง Lipid Peroxide ไม่ให้จับกับเม็ดสี ป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ให้ผิวกระจ่างใส 
วิตามินซี (100.00 mg.) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกลูต้าไธโอน ช่วยให้ผิวที่คล้ำกระจ่างใสขึ้น
ซิงค์อะมิโนแอคซิดคีแลต (15.00 mg.) เป็นธาติสังกะสีในรูปแบบเชิงซ้อน เป็นการผสานพลังงานของสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่เกิดจากมลภาวะ หรือแสงแดดที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดได้ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิว
คอลลาเจน (15.00 mg.) เป็นโปรตีนสกัดจากปลาทะเลน้ำลึก เป็นคอลลาเจนที่มีขนาดเล็กช่วยเสริมสร้างผิวให้เต่งตึงกระชับและอุ้มน้ำได้ดี ประสานผิวให้เรียบตึง ดูเรียบเนียนกระชับ ริ้วรอยลดลง
ไลโคปีน (15.00 mg.)  มีคุณสมบัติปกป้องผิวจากรังสี UV เพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณผิว ให้ผิวดูมีเลือดฝาดดูสุขภาพดี ต้านอนุมูลอิสระดีกว่าวิตามินซี 100 เท่า กลูต้าไธโอน 150 เท่า
กรดอัลฟา-ไลโปอิคแอซิด (15.00 mg.) ช่วยขจัดสารพิษในตับ ต่อต้านแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของสิว รักษาสิว ทำให้ผิวพรรณดูสดใส
วิตามินอี (5.00 mg.) ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง ช่วยลดริ้วรอยบนผิว ชวยให้ผิวพรรณสดใส ดูอ่อนกว่าวัย ลดรอยแผลเป็น

Glutathione กลูต้าไธโอน หัวหน้าทีม สารต้านอนุมูลอิสระ 
กลูต้าไธโอนเป็นโปรตีนที่สังเคราะห์จากกรดอะมิโน 3 ตัวที่ชื่อ ซีสเตอีน ไลซีน และกลูตามิคแอซิต  กลูต้าไธโอนจัดว่าเป็นตัวสำคัญที่สุดในการช่วยร่างกายทำลายและขจัดของเสียออกจากร่างกายที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า "ดีท็อกซ์" (Detoxification) 

กลูต้าไธโอนมีส่วนที่เหมือนกับซีสเตอีนคือส่วนประกอบที่เรียกว่า "ไธโอน" ซึ่งส่วนประกอบนี้แหละทีทำให้มันป็นตัวที่สามารถทำลายอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ทั้งพืชหรือสัตว์ทุกชนิด ภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ล้วนมีกลูต้าไธโอนอยู่ด้วยทั้งนั้น นักวิทยาศาสตร์ได้สันนิษฐานว่ากลูต้าไธโอนมีประโยชน์และมีความจำเป็นอย่างมากต่อพัฒนาการของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นบนโลกใบนี้

หลายพันล้านปีก่อนที่มีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นบนโลก มีแก๊สพิษมากมายและเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต บรรยากาศของโลกประกอบด้้วย ไฮโดรเจน คาร์บอนมอนนอกไซต์ แอมโมเนีย และมีเทน เป็นต้น เซลล์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายต้องป้องกันตัวเองจากแก๊สพิษเหล่านี้ด้วยการสร้างสารขึ้นมาทำลายแก๊สพิษเพื่อการอยู่รอด สารที่ถูกสิ่งมีชีวิตสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายแก๊สพิษตั้งแต่ยุคนั้นเป็นต้นมาคือ "กลูต้าไธโอน" ตั้งแต่สมัยนั้นจวบจนสมัยนี้กลูต้าไธโอนยังคงมีประโยชน์และมีประสิทธิภาพต่อสิ่งมีชีวิตมาโดยตลอด นั่นก็เพราะว่าปัจจุบันมนุษย์ได้สร้างแก้สพิษหรือสารพิษขึ้นมามากมายแบบไม่กลัวตาย จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ และก็เป็นมลพิษอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตต่างๆ ทำให้กลูต้าไธโอนต้องกลับมาเป็นพระเอกอีกครั้งในการช่วยให้สิ่งมีชีวิตต่างๆสามารถอยู่รอดต่อไปได้ซึ่งรวมทั้งตัวเราด้วย กลูต้าไธโอนสามารถทำลายได้ทั้งหมดตั้งแต่ แก๊สพิษ สารพิษ อนุมูลอิสระ และนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่เราๆท่านๆ ทุกคนไม่ควรมองข้ามไปโดยเด็ดขาด เรื่องผิวพรรณขาว ผิวพรรณดีเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆที่เราๆ่านๆจะได้รับจากกลูต้าไธโอน ลองมาฟังคร่าวๆว่าทำไมผิวพรรณถึงดีขึ้น กลูต้าไธโอนไปทำลายอนุมูลอิสระในตัวท่าน ซึ่งอนุมูลอิสระนี่แหละที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดฝ้า เกิดกระเมื่อเจอแดด และเมื่ออนุมูลอิสระลดลงฝ้าและกระก็จะลดลงตามไปด้วย 

ในเมื่อมันช่วยทำลายของเสียหรือสารพิษได้ขนาดนั้น ประโยชน์ของมันคงไม่ใช่แค่ผิวสวยแน่นอน ในตำราต่างประเทศมีระบุไว้มากมายเช่น ช่วยการทำงานต่างๆของตับ โดยเฉพาะการทำลายของเสียและสารพิษทิ้ง เช่น ควันรถ ควันบุหรี่ ธาตุโลหะหนัก (ปรอท ตะกั่ว แคดเมียม เป็นต้น) อนุมูลอิสระ ยาเกินขนาด ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช เป็นต้น
  • ช่วยแก้อาการเมาค้าง ที่สามารถช่วยแก้อาการเมาค้างได้เนื่องจากมันไปช่วยตับทำลายแอลกอฮอล์ที่เรากินมากเกินไปทิ้งได้ดีและเร็วยิ่งขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ช่วยให้เม็ดเลือดขาว สามารถทำลายเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อราต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ ป่วยยาก และถ้าป่วยก็จะหายเร็วขึ้น 
  • ช่วยการสร้างเม็ดเลือดแดง และทำให้เม็ดเลือดแดงทนทาน ทำงานได้ดี 
  • ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งในสัตว์ทดลอง ซึ่งหมายความว่าจ่าจะลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งในคนด้วย 
  • ช่วยการทำงานของต่อมไทรอยด์
  • ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดเผลในทางเดินอาหาร
  • ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นต้อกระจก
  • ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคระบบสมองและประสาทเช่นพาร์กินสัน ไมแอสทีเนียเกรวิส
  • ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้
  • ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไตวาย 
ยังมีประโยชน์อีกเพียบ .... เอาเป็นว่า กินไว้บ้างเถอะนะครับ ดีจริงๆ ลองมาฟังเรื่องงานวิจัยที่หลายคนอาจจะอึ้งไปเลยก็ได้ เมื่อปี 1982 มีงานวิจัยที่นำเสนอที่ New York Academy of Science , 17 Feb 1982 (กว่า 30 ปี มาแล้ว) เป็นการทำวิจัยในหนู เขาใช้วิธีทำให้หนูเป็นมะเร็งตับโดยการให้สารก่อมะเร็งที่แรงมากกับหนู เรียกว่า Aflatoxin B1 ภายใน 1 ปี หนูทุกตัวเป็นมะเร็งตับ หลังจากนั้น เขาจะแบ่งหนูออกเป็น 2 กลุ่ม 
  • กลุ่มที่ 1 เลี้ยงด้วยอาหารตามปกติ
  • กลุ่มที่ 2 เลี้ยงด้วยอาหารตามปกติ และฉีดกลูต้าไธโอน 100 มก. เข้าเส้นเลือด 
ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ 1 ตายเีรียบ ส่วนกลุ่มที่ 2 รอด 81% และที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้นคือ พวกหนูที่รอดนั้นปรากฏว่ามะเร็งตับหายไปหรือไม่ก็เป็นน้อยลง 

หลายคนอาจจะคิดว่า เรื่องดีๆ แบบนี้ทำไมไม่มีการวิจัยต่อในคนเพื่อพัฒนาในการรักษาโรคมะเร็งในคน คนที่ชอบคิดจะคิดอะไรก็ได้ แต่ลองอ่านดูต่อแล้วจะปลง เนื่องจากกลูต้าไธโอนเป็นสารธรรมชาติที่ใครก็ไม่สามารถเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ ดังนั้นบริษัทยายักษ์ใหญ่และพวกนายทุนทั้งหลายก็เลยไม่สนใจลงทุนวิจัยพวกนี้ คิดง่ายๆ ให้คุณทำงานซัก 6 เดือนโดยไม่ได้รับเงินเดือนคุณยังลังเลเลย งานวิจัยจริงๆจังๆเรื่องน้จึงมีน้อย ที่มีงานวิจัยออกมาก็เป็นงานวิจยของพวกนักวิทยาศาสตร์ที่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น แต่แค่นี้ก็ทำให้เราๆท่านๆได้ประโยชน์แล้ว ถึงแม้จะเป็นการทดลองในหนู แต่ก็แสดงว่าคนก็อาจจะเป็นแบบหนูได้ คนอาจจะหายจากมะเร็งได้ ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ 

ถึงเวลาแล้วที่เราๆท่านๆ จะได้บริโภคสิ่งที่มีประโยชน์มากขนาดนี้เสียที 

ถ้าท่านจำได้ อนุมูลอิสระเป็นของเสียชนิดหนึ่งที่เกิดจากการใช้ออกซิเจนของร่างกายเรา และปัจจุบันถือว่าเป็นของเสียหรือสารพืษที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราที่มีมากที่สุดและอันตรายที่สุด ถ้าเราสามารถป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระได้ก็จะดีมากๆๆๆ ลองรับประทาน Gold V ผลิตภัณฑ์ของ PGP Gold Star ดูนะครับ


วิธีรับประทาน ครั้งละ 1-2 แคปซูงก่อนอาหารเช้า และเย็น ครึ่งชั่วโมง

ราคาปลีก 800 บาท
ราคาสมาชิก 500 บาท คะแนน 125 PV
บรรจุ 30 แคปซูล